Sunday, August 29, 2010

HELL

นรกในความเชื่อทางพุทธ นรก แปลว่า ภูมิหรือดินแดนที่ปราศจากความเจริญ, หุบเหวแห่งความทุกข์ นรก เป็นภูมิที่เกิดของผู้ที่ทำบาปกรรมไว้หลังจากตายไปแล้ว เป็นภูมิที่มีแต่ความทุกข์ทรมาน หาความสุขมิได้ เป็นภูมิหนึ่งในจำนวนอบายภูมิ 4 เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า นรกภูมิ นรก มีหลายชั้น ตามกรรมของผู้ทำ เช่น โลหกุมภีนรก (นรกหม้อทองแดง) สิมพลีนรก (นรกต้นงิ้ว) เรียกการไปเกิดในนรกว่า ตกนรก มีอีกคำหนึ่งซึ่งใช้แทนคำว่า นรก และมีความหมายเหมือนกันคือคำว่า นิรย เช่นใช้ว่า นิรยภูมิ (แผ่นดินนรก) นิรยบาล (ผู้ดูแลนรก ผู้คุมนรก) นรก (สันสกฤต, บาลี : นรก; อาหรับ: นารฺ, ญะฮีม, ญะฮันนัม, สะก็อร; อังกฤษ hell) หมายถึง ภพหนึ่งในคติของศาสนาต่าง ๆ เช่น อิสลาม คริสต์ พุทธและยูได อันเป็นสถานที่ตอบแทนความชั่วของมนุษย์ที่ได้ทำไปเมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ นรกภูมิในพระพุทธศาสนา นรกแบ่งเป็นขุมๆตามอำนาจของกรรมที่เหล่าสัตว์โลกกระทำไว้บันดาลให้เกิดขึ้น นรกมีทั้งหมด 457 ขุม เยอะมากถ้าเทียบกับ สุขคติภูมิ26 ชั้น แสดงว่าสัตว์โลกกระทำปาบมากกว่าบุญมาก ที่อยู่ของสัตว์นรกจึงเยอะกว่ามาก นรกจะขยายตัวออกไปไม่สิ้นสุดตามจำนวนที่มากขึ้นของสัตว์นรก ฉะนั้นนรกไม่เหมื่อนคุกที่มีวันเต็ม นรกไม่มีทางเต็มเลย นรกแบ่งตามอำนาจของกรรมดังนี้ • มหานรก 8 ขุม • อุสสทนรก 128 ขุม • ยมโลก 320 ขุม • โลกกันตนรก 1 ขุม มหานรก 8ขุม 1. สัญชีวมหานรก ขุมนรกไม่มีวันตาย สัตว์นรกมีอายุ 500 ปี 1วันนรกขุมนี้เท่ากับ 5ล้านปีมนุษย์ 2. กาฬสุตตมหานรก ขุมนรกบรรทัดดำสัตว์นรกมีอายุ1,000ปี 1วันนรกขุมนี้เท่ากับ 36ล้านปีมนุษย์ 3. สังฆาตมหานรก ขุมนรกภูเขาขยี้กาย สัตว์นรกมีอายุ 2,000 ปี 1วันนรกขุมนี้ เท่ากับ 145 ล้านปี 4. โรรุวมหานรก ขุมนรกร้องไห้ สัตว์นรกมีอายุ 4,000 ปี 1วันนรกขุมนี้เท่ากับ 234 ล้านปีมนุษย์ 5. มหาโรรุวมหานรก ขุมนรกร้องดังสนั่น สัตว์นรกมีอายุ 8,000 ปีนรก 1วันนรกเท่ากับ 9,216 ล้านปี 6. ตาปนมหานรก ขุมนรกแห่งความเร่าร้อนสัตว์นรกมีอายุ16,000ปี 1วันนรกเท่ากับ 184,212 ล้านปี 7. มหาตาปนมหานรก ขุมนรกแห่งความเร่าร้อนยิ่ง สัตว์นรกมีอายุ ครึ่งกัป 8. อเวจีมหานรก ขุมนรกแห่งไฟ สัตว์นรกมีอายุ 1 กัป อุสทนรก128ขุม เป็นบริวารของมหานรกทั้ง8โดยแบ่งแยกดังนี้ 1. อุสทนรกอยู่รอบ สัญชีวมหานรก 16ขุม 2. อุสทนรกอยู่รอบ กาฬสุตตตมหานรก 16 ขุม 3. อุสทนรกอยู่รอบ สังฆาตมหานรก 16 ขุม 4. อุสทนรกอยู่รอบ โรรุวมหานรก 16 ขุม 5. อุสทนรกอยู่รอบ มหาโรรุวะมหานรก 16 ขุม 6. อุสทนรกอยู่รอบ ตาปนมหานรก 16 ขุม 7. อุสทนรกอยู่รอบ มหาตาปนมหานรก 16 ขุม 8. อุสทนรกอยู่รอบ อเวจีมหานรก 16 ขุม อุสทนรก128 ขุม ร่ายรอบมหานรกทั้ง8โดยอยู่ประจำทั้ง4ทิศ ทิศละ4ขุม มีชื่อเรียกเหมื่อนกันทั้งหมด ไม่กล่าวถึงอายุของสัตว์นรกที่ต้องเสวยทุกข์ ในอุสทนรกอย่างชัดเจน นรกขุมนี้มีชื่อเรียกดังนี้ 1. คูถนรก ขุมนรกเห่งขี้เน่า 2. กุกกุฬนรก ขุมนรกแห่งเถ้ารึง 3. อสิปัตตนรก ขุมนรกมะม่วงเหล็กมหาภัย 4. เวตรณีนรก ขุมนรกน้ำกรด ยมโลก 320 ขุม จัดเป็นบริวารชั้นนอกของมหานรกทั้ง 8 ขุม โดยแบ่งแยกดังนี้ 1. ยมโลกอยู่รอบ อุสทนรกใกล้ สัญชีวมหานรก 40 ขุม 2. ยมโลกอยู่รอบ อุสทนรกใกล้ กาฬสุตตมหานรก 40 ขุม 3. ยมโลกอยู่รอบ อุสทนรกใกล้ สังฆาตมหานรก 40 ขุม 4. ยมโลกอยู่รอบ อุสทนรกใกล้ โรรุวมหานรก 40 ขุม 5. ยมโลกอยู่รอบ อุสทนรกใกล้ มหาโรรุวมหานรก 40 ขุม 6. ยมโลกอยู่รอบ อุสทนรกใกล้ ตาปนมหานรก 40 ขุม 7. ยมโลกอยู่รอบ อุสทนรกใกล้ มหาตาปนมหานรก 40 ขุม 8. ยมโลกอยู่รอบ อุสทนรกใกล้ อเวจีมหานรก 40 ขุม ยมโลกอยู่ในทิศทั้ง4ของอุสทนรกทิศละ 10 ขุม มีชื่อที่เรียกเหมื่อนกันทั้งหมด มีชื่อต่างๆดังนี้ ยมโลกประจำทิศต่างๆทิศละ 10 ขุม • ขุมที่1 โลหะกุมภีนรก ขุมนรกแห่งหม้อโลหะ • ขุมที่2 สิมพลีนรก ขุมนรกต้นงิ้ว • ขุมที่3 อสินขนรก ขุมนรกแห่งสัตว์ร้าย • ขุมที่4 ตามโพทกนรก ขุมนรกน้ำทองแดงเดือด • ขุมที่5 อะโยคุฬะนรก ขุมนรกก้อนทองแดงร้อน • ขุมที่6 ปิสสกปัพพะตนรก ขุมนรกภูเขายนต์ • ขุมที่7 สุธนรก ขุมนรกแกลบไฟ • ขุมที่8 สีตะโลสิตะนรก ขุมนรกน้ำกรดเย็น • ขุมที่9 สุนขะนรก ขุมนรกพญาหมา • ขุมที่10 ยันตะปสานนรก ขุมนรกแห่งภูเขาบด โลกกันตนรก ขุมนรกที่ได้ชื่อว่าต่ำที่สุดของบรรดาขุมนรกทั้งหมด นรกขุมตั้งอยู่ระหว่างกลางจักรวาลทั้ง3 ที่มาบรรจบกัน เป็นขุมนรกแห่งความมืด ไร้แสงสว่าง สัตว์นรกตัวใหญ่มาก อาศัยเกาะตามภูเขาในลักษณะหัวห้อยลงมา ถ้าตกลงมาจากภูเขาจะจมลงสู่ทะเลน้ำกรดเย็น ละลายร่างกายอันใหญ่ภายในชั่วพริบตา เมื่อตายแล้วก็เกิดขึ้นมาใหม่ตามอำนาจกรรมที่เคยกระทำไว้ ด้วยความเย็นของทะเลน้ำกรดเขาจึง ตะเกียกตะกายขึ้นมาอยู่บนภูเขาอีก เป็นอยู่อย่างนี้จนสิ้น 1พุทธันดร จึงพ้นกรรมไปเสวยทุกข์ในนรกขุมอื่นๆต่อไป แล้วกรรมที่เคยกระทำไว้ มหานรก 8 ขุม นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 1 สัญชีวนรก ลักษณะพื้นเป็นเหล็กหนา เผาไฟจนแดงโชน ขอบด้านข้าง 4 ขอบก็เช่นกัน มองออกไปไม่แลเห็นขอบบ่อ มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล แต่จะหาที่ว่างเว้นจากไฟไม่ได้เลย ระหว่างไฟจะมีสรรพาวุธต่างๆ เช่น หอก ดาบ ฯลฯ สารพัดจะมี ถูกไฟเผาแดงจนมีความคมจัด สัตว์นรกที่อยู่ในนั้นจะวิ่งพล่าน เพราะเท้าเหยียบไฟ ร่างกายก็จะถูกเผาไฟติดไฟตลอดเวลา เวลาวิ่งไปก็จะไปกระทบกับหอก ดาบ ฆ้อน หรืออาวุธต่างๆ มาฟัน แทง สับ ร้องครวญครางดิ้นเร่าๆ แต่พอร่างกายขาดแล้ว ก็จะมาต่อติดกันใหม่โดยทันที มาทรมานต่อไป ไม่มีวันตาย สรุปว่ามีไฟเผากายตลอดเวลา มีสรรพาวุธประหัตประหารตลอดเวลา นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 2 กาฬสุตตนรก มีกำแพงทั้ง 4 ด้านเป็นเหล็ก พื้นเป็นเหล็ก ถูกเผาไฟจนแดงโชน นายนิริยบาลจะจับเอาสัตว์นรกนอนลงไป นำเส้นบรรทัดมาตีเป็นเส้นที่ตัว จากหัวถึงท้ายบ้าง ตีตามขวางบ้าง ไม้บรรทัดนั้นทำจากสายเหล็กที่เผาไฟจนแดงโชน มื่อตีเส้นเป็นแนวแล้ว ก็จะนำเลื่อยบ้าง ขวานบ้าง มีดอีโต้บ้าง มาสับลงตามรอยที่ตีไว้แล้วนั้น นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 3 สังฆาฏนรก มีกำแพงทั้ง 4 ด้านเป็นเหล็ก พื้นเป็นเหล็ก ถูกเผาไฟจนแดงโชน มีภูเขาเหล็ก 2 ลูก กลิ้งไปกลิ้งมาคอยบดทับสัตว์เหล่านั้น ภูเขาเองก็เป็นเหล็กที่ถูกเผาจนแดงโชนเช่นกัน เมื่อถูกบดจนละเอียดแล้วก็จะฟื้นขึ้นมาใหม่ ไม่ตาย รับการทรมานต่อไป คนที่วิ่งหนีก็จะถูกนายนิริยบาลตีบ้าง แทงบ้าง ฟันบ้าง ตลอดเวลา นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 4 โรรุวนรก มีกำแพงเหล็ก 4 ด้าน ไฟลุกโชน จนหาเปลวไม่ได้ ยิ่งลึกมาก ก็ยิ่งร้อนมากขึ้นไปเรื่อยๆ ตรงกลางขุมจะมีดอกบัวเหล็ก กลีบเหล็กถูกเผาไฟจนแดงโชน กระแสแห่งไฟพุ่งออกจากกลีบตลอดเวลา ไม่มีนายนิริยบาล สัตว์นรกจะถูกกรรมทำให้ต้องเอาหัวมุดลงไปในดอกบัว มือและขาก็จะจุ่มลงไปเช่นกัน กลีบบัวจะงับเข้ามาหนีบขาไว้ถึงข้อเท้า หนีบมือไว้ถึงข้อมือ ส่วนหัวจะหนีบไปถึงคาง เพื่อให้ไฟนั้นเผาอยู่ตลอดเวลา นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 5 มหาโรรุวนรก มีดอกบัวขนาดใหญ่ ไฟร้อนจัด กลีบบัวมีความคมเป็นกรด วางตั้งอยู่ทั่วไป ระหว่างช่องที่ว่างอยู่จะมีแหลนหลาว ปักเอาไว้ โดยเอาปลายแหลมชี้ขึ้น เผาไฟจนแดงโชน แต่ดอกบัวนี้จะไม่งับแน่นนัก สัตว์นรกที่อยู่ในดอกบัวทั้งหลายจะร้อน และดิ้นไปโดนกลีบบัว เมื่อกระทบกลีบบัวก็จะขาดตกลงมา ถูกแหลนหลาวข้างล่างแทงรับไว้ แต่เนื่องจากแหลนหลาวนั้นเป็นไฟลุกแดง จึงทำให้เนื้อตัวของสัตว์นรกนั้นลุกร้อนเป็นไฟ ตกลงมาที่พื้น เมื่อตกถึงพื้น ก็จะมีหมาที่คอยกัดกินจนเหลือแต่กระดูก จนหมดเกลี้ยง แล้วก็จะก่อตัวขึ้นมาเป็นกายใหม่ จากนั้นนายนิริยบาลก็จะบังคับไล่แทงให้ไปอยู่บนดอกบั วต่อไปอีก นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 6 ตาปะมหานรก แสงเพลิงสว่างไสวมาก เป็นแสงไฟละเอียด มีความร้อนจัด สัตว์ร้องระงมเซ็งแซ่ไปหมด มีกำแพงล้อมรอบ 4 ด้าน และพื้นเป็นเหล็กร้อน แดงฉาน มีแหลนหลาวไฟลุกแดงโชน พุ่งมาเสียบเอาสัตว์นรกแล้วเอาขึ้นตั้งไว้ พอไฟไหม้เนื้อหนังหล่นลงมา สัตว์นรกก็จะหล่นลงมาด้วย ก็จะถูกสุนัขขนาดใหญ่เท่าช้าง เที่ยวไล่กัดกิน แทะจนหมดเหลือแต่กระดูกแล้วก็ไปเริ่มต้นใหม่ สัตว์นรกตัวใดไม่ยอมไป ก็จะถูกนายนิริยบาลเอาแหลนไปเสียบแล้วมาขึ้นตั้งไว้อ ย่างเดิม นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 7 มหาตาปะนรก มีกำแพงทุกด้าน มีไฟที่ความร้อนสูง คล้ายแสงสว่าง พุ่งเข้ามาจากรอบทิศ มารวมกันตรงกลาง มีภูเขาที่ตั้งอยู่ตรงกลางขุมนรก ก็จะมีไฟพุ่งเข้าพุ่งออกเป็นเหล็กที่เผาแดง นายนิริยบาลจะบังคับให้สัตว์นรกป่ายปีนขึ้นไปบนยอดเข า วิ่งขึ้นไป พอไปใกล้ถึงยอดก็จะทนไม่ไหว ร่วงหล่นลงมา ก็จะถูกแหลนหลาวที่ปักเอาไว้โดยรอบแทงเข้า เมื่อหล่นจากแหลนหลาวนั้นร่างก็จะเต็ม แล้วถูกไฟเผาตามเดิม นายนิริยบาลก็จะมาไล่ให้ขึ้นไปยอดเขาต่อไป นรกขุมใหญ่ ขุมที่ 8 อเวจีมหานรก พิเศษกว่าทุกขุม คือ ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ กระดูกแดงฉาน เนื่องจากถูกไฟเผาจนสุก ถูกให้ยืนกางแขนกางขา มีกำแพงปิดเฉพาะตัว 6 ทิศ มีหอกแทงทะลุตรึงไว้ทั้งหมด จากบนลงล่าง ซ้ายทะลุขวา หน้าทะลุหลัง หลายสิบเล่ม จนไม่สามารถจะขยับได้เลยแม้แต่น้อย จำนวนสัตว์นรกที่อยู่ในขุมนี้ มีมากกว่าทั้ง 7 ขุม ที่กล่าวมาแล้วรวมกันทั้งหมดเสียอีก โลกันตนรก นรกขุมใหญ่ พิเศษสุด "โลกันตนรก" ไม่มีอายุ หลังจากใช้กรรมจนหมดแล้ว จะต้องไปต่อที่อเวจีมหานรกต่อไปทันที ลักษณะเป็นภูเขาที่ใหญ่โตประมาณมิได้ ภายในภูเขานั้น เป็นถ้ำขนาดใหญ่มาก มีความเย็นจัดจนบอกไม่ถูก เป็นการทรมานสัตว์นรกด้วยความเย็น ภายในถ้ำมีน้ำเป็นน้ำกรด แรงจัด และเย็นเฉียบ มีแต่ความมืดมิด ไม่มีแสงสว่าง สัตว์นรกทั้งหลายจะไต่ตามผนังข้างๆ ถ้ำ หินที่ผนังจะคมเป็นกรด สัตว์ทั้งหลายจะมองไม่เห็นกัน ต่างก็คิดว่าอยู่คนเดียว พอไต่มาพบกันก็จะนึกว่าเป็นอาหาร ก็กัดกินกันจนตกลงไปในน้ำ น้ำกรดก็จะกัดกร่อนทำลายเนื้อหนังจนหมดสิ้น เหลือแต่กระดูก ก็จะประกอบขึ้นมาเป็นร่าง ไต่ขึ้นมาตามผนังถ้ำใหม่อีกครั้ง ต่อไปเรื่อยๆ จนหมดกรรม